วันอังคารที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556

HTTP คืออะไร


HTTP คืออะไร
HTTP ย่อมาจาก Hypertext Transfer Protocol คือ โพรโทคอลสื่อสารสำหรับการแลกเปลี่ยนสารสนเทศผ่านอินเทอร์เน็ต โดยหลักแล้วใช้ในการรับเอกสารข้อความหลายมิติที่นำไปสู่การเชื่อมต่อกับ World Wide Web(
WWW )จะใช้เมื่อเรียกโปรแกรมweb browser เช่น Firefox, Google Chrome, Safari,Opera และ IE Microsoft Internet Explorer เรียกดูข้อมูลหรือเว็บเพจ โปรแกรมบราวเซอร์ดังกล่าวจะใช้โปรโตคอล HTTP ซึ่งโปรโตคอลนี้ทำให้เซิร์ฟเวอร์ส่งข้อมูลมาให้บราวเซอร์ตามต้องการ และบราวเซอร์จะนำข้อมูลมาแสดงผลบนจอภาพได้อย่างถูกต้อง
ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันระหว่าง Server และ Client ของ World Wide Web (Server) โดยส่งข้อมูลแบบ Clear text คือ ข้อมูลที่ทำการส่งไปนั้น ไม่ได้ทำการเข้ารหัส ทำให้สามารถถูกดักจับและอ่านข้อมูลได้ง่าย
ที่มา
http://www.mindphp.com/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD/73-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3/2046-http-https-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3.html

URL คืออะไร


URL คืออะไร
URL ย่อมาจากคำว่า Uniform Resource Locator คือ ที่อยู่ (Address) ของข้อมูลต่างๆใน
Internet เช่น ที่อยู่ของไฟล์หรือเว็บไซต์บนอินเตอร์เน็ต

รูปแบบของ URL จะประกอบด้วย
http://www.urlbookmarks.com/support/urlfaq.htm
1. ชื่อโปรโตคอลที่ใช้ (http ซึ่งย่อมาจาก HyperText Transfer Protocol)
2. ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ และชื่อเครือข่ายย่อย (www/urlbookmarks)
3. ประเภทของเวบไซต์ (.com) ซึ่งมีอยู่ 2 ประเภท คือเช่น.com (Commercial),.edu (Educational),.org (Organizations),.net (Network) ฯลฯ
4. ไดเร็กทอรี่ (/support/)
5. ชื่อไฟล์และนามสกุล (urlfaq.htm)

ความสำคัญของ URL คือเวลาเราเข้าเว็บไซต์เราก็ต้องพิมพ์ URL ลงในช่อง url address ของ 
web browser เช่น จะเข้าเว็บ google.comก็ต้องพิมพ์ http://www.google.com หรือ จะพิมพ์ google.com ก็ได้ไม่ต้องมี http://www.ก็ได้เดี๋ยว Browser มันจะเติมให้เราเอง ดังนั้นการอ้างอิงของข้อมูลบนอินเตอร์เนตต้องระบุ URL ให้ถูกต้อง มิฉะนั้นจะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลนั้นได้
ที่มา
http://www.mindphp.com/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD/73-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3/2045-url-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3.html

TCP/IP คืออะไร


TCP/IP คืออะไร
      การที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ถูกเชื่อมโยงกันไว้ในระบบ  จะสามารถติดต่อสื่อสารกันได้นั้น จำเป็นจะต้องมีภาษาสื่อสารที่เรียกว่า โปรโตคอล (Protocol ) ซึ่งในระบบInternet จะใช้ภาษาสื่อสารมาตรฐานที่ชื่อว่า TCP/IP เป็นภาษาหลัก ดังนั้นหากเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะเป็นเครื่องระดับไมโครคอมพิวเตอร์ มินิคอมพิวเตอร์ หรือเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ ก็สามารถเชื่อมโยงเข้าสู่อินเทอร์เน็ตได้
TCP  ย่อมาจากคำว่า   Transmission Control Protocol
IP   ย่อมาจากคำว่า   Internet  Protocol
TCP/IP คือชุดของโปรโตคอลที่ถูกใช้ในการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สามารถใช้สื่อสารจากต้นทางข้ามเครือข่ายไปยังปลายทางได้
และสามารถหาเส้นทางที่จะส่งข้อมูลไปได้เองโดยอัตโนมัติ 

TCP และ IP มีหน้าที่ต่างกัน คือ
 1.  TCP จะทำหน้าที่ในการแยกข้อมูลเป็นส่วน ๆ หรือที่เรียกว่า Package ส่งออกไป ส่วน TCP ปลายทาง ก็จะทำการรวบรวมข้อมูลแต่ละส่วนเข้าด้วยกัน เพื่อนำไปประมวลผลต่อไป โดยระหว่างการรับส่งข้อมูลนั้นก็จะมีการตรวจสอบความถูกต้องของ ข้อมูลด้วย ถ้าเกิดผิดพลาด TCP ปลายทางก็จะขอไปยัง TCP ต้นทางให้ส่งข้อมูลมาใหม่
 2.  IP จะทำหน้าที่ในการจัดส่งข้อมูลจากเครื่องต้นทางไปยังเครื่องปลายทางโดยอาศัย 
IP Address 
ที่มา 
http://www.mindphp.com/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD/73-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3/2042-tcp-ip-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3.html

วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

11 ทริปในฝัน สวรรค์ของนักเดินทาง(ตอน1)


11 ทริปในฝัน สวรรค์ของนักเดินทาง
1.สวิตเซอร์แลนด์

ซึ่งมีสมญานามว่า หลังคาแห่งทวีปยุโรป พระเจ้าได้ประทานประเทศนี้เป็นดินแดนอันเงียบสงบโอบล้อมด้วยขุนเขาน้อยใหญ่มีหิมะปกคลุม มีบ้านสไตล์สวิสชาเลต์ที่ปลูกสลับไปกับทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มแซมด้วยดอกไม้ป่าหลากหลายสีสันในฤดูใบไม้ผลิ ทะเลสาบที่น้ำใสราวกับกระจกกระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศ ไม่เพียงแต่ทิวทัศน์อันงดงามตระการตา อาคารบ้านเรือนตามเมืองใหญ่หลายๆแห่งยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก สวิตเซอร์แลนด์จึงกลายเป็นสถานที่ใฝ่ฝันของนักเดินทางจากทุกมุมโลก
2.ล่องเรือสำราญเมดิเตอร์เรเนียน 

เป็นการเดินทางที่ไม่ควรพลาดให้หลับตาแล้วจินตนาการถึงโรงแรมหรูหราระดับห้าดาวลอยน้ำส่งท่านตามเมืองท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลของประเทศต่างๆ เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน กรีซ และตรุกี เพราะทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมีอาณาเขตครอบคลุมถึงสามทวีป ได้แก่ ยุโรป เอเชีย และแอฟริกา เส้นทางสีน้ำเงินของท้องทะเลแห่งนี้เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติทางประวัติศาสตร์ ที่ไม่เคยทำให้นักท่องเที่ยวคนใดผิดหวัง
3.ปักกิ่ง

มีสุ๓ษิตเขียนไว้ว่า ไม่มาปักกิ่งไม่รู้ว่ายศต่ำ เพราะเมืองหลวงแห่งนี้คือศูนย์กลางการบริหารประเทศที่เต็มไปด้วยข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทำให้ข่าราชการที่มาจากต่างมณฑลพากันรู้สึกว่ายศของตัวเองต่ำต้อย ปักกิ่งเป็นเส้นทางการค้าที่มีอายุกว่า3,000 ปี จึงรวบรวมเอาศาสตร์และศิลป์จากราชวงศ์ต่างๆ ไว้มากที่สุดในประเทศจีน เช่น กำแพงเมืองจีนนับเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง พระราชวังต้องห้าม ที่ประกอบด้วยห้องต่างๆถึง 9,999  ห้อง จัตุรัสเทียนอันเหมินที่ใหญ่ที่สุดในโลก พระราชวังฤดูร้อนของพระนางซูสีไทเฮา วัดลามะขององค์ชายสี่และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกมากมาย
4.บาหลี

เกาะแห่งเทพเจ้าที่มีเนื้อที่เพียง 5.600 ตารางกิโลเมตร แต่สามารถดำรงรักษาไว้ซึ่งวิถีชีวิตแบบเทิดถาดเทิดพาน เป็นการนำเครื่องพลีไปสังเวยต่อเทพยดา ตลอดจนความมั่งคั่งของศิลปะตามหมู่บ้านเล็กๆ ซึ่งงามตาด้วยนาฏศิลป์อันชดช้อยที่เปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์และธรรมชาติที่ชื่นฉ่ำอำไพด้วยลำธาร ป่าเขา หาดทราย ทำให้บาหลีอบอวลไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่คุณต้องหลงรัก
5.ซีอาน 

ในประเทศจีนมีคำกล่าวว่า ถ้าอยากเห็นปัจจุบันต้องไปปักกิ่ง ถ้าอยากเห็นอนาคตต้องไปเซี่ยงไฮ้ ถ้าอยากเห็นอดีตต้องไปซีอาน ชื่อเมืองๆนี้มีความหมายว่าความสงบสุขแห่งตะวันตก ซีอานเป็นอดีตเมืองหลวงของ 12 ราชวงศ์ และเป็นอู่อารยะธรรมอันรุ่งเรืองแห่งแม่น้ำฮวงโห รวมทั้งเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหม ตลอดจนได้สร้างความตื่นตะลึงให้กับชาวโลกด้วยการขุดค้นพบสุสานทหารจิ๋นซีกว่า 7,000 ชิ้นที่มีใบหน้าไม่เหมือนกันแม้แต่ชิ้นเดียว เมืองที่มีอายุกว่า 5,000  ปีแห่งนี้ยังมีกำแพงเมืองเป็นหนึ่งในปราการป้องกันทหารที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย

(จบตอนหนึ่งแล้วนะ ติดตามใด้ในตอนสอง เร็วๆนี้)

ที่มา : หนังสือ achieve ปีที่ 13 ฉบับที่ 151 มีนาคม 2556 หน้า 18-19 

วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

สัตว์วิเศษ(?)


จอบเบอร์นอลล์
พบได้ในทางแถบยุโรปเหนือ เป็นนกสีฟ้าตัวเล็กและมีลายจุด มันมักจะกินแมลงตัวเล็กๆเป็นอาหาร และมันจะไม่ส่งเสียงใดๆ เลยจนเมื่อถึงเวลาที่มันใกล้จะตาย เมื่อถึงเวลานั้นมันก็จะกรีดร้องออกมา เป็นทุกเสียงที่มันเองได้ยิน ตั้งแต่ล่าสุดที่มันได้ยินย้อนกลับไปจนถึงเสียงแรกที่ได้ยิน หลังจากนั้นมันก็จะตาย ขนของสัตว์ชนิดนี้ใช้ทำเป็นเครื่องปรุงสัจจะเซรุ่ม และน้ำยาฟื้นความจำ สัตว์ชนิดนี้ไม่มีอันตราย มันถูกจัดอยู่ในประเภท ไม่มีอันตรายเลี้ยงไว้ในครัวเรือนได้

นกฟีนิกซ์


นกฟีนิกซ์เมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดเท่าหงส์ ขนหางเป็นสีทองเลื่อมพรายและยาวพอๆกับแพนหางของนกยูง มีเล็บสีทองวาววับ และมีจงอยปากยาวสีทอง เสียงร้องของนกฟีนิกซ์เป็นเสียงเสมือนราวกับไม่ได้มาจากโลกมนุษย์ ฟังดูแปลกประหลาดและชวนเยือกเย็นจนถึงไขสันหลัง เปลวไฟจะลุกโพลงขึ้นในขณะที่มันบิน
"นกฟีนิกซ์จะลุกเป็นไฟเมื่อถึงเวลาตายและจะเกิดใหม่จากเถ้าถ่าน" ดัมเบิลดอร์
นกฟีนิกซ์สามารถแบกของที่มีน้ำหนักมหาศาลได้ น้ำตาของนกฟีนิกซ์มีอำนาจรักษาเยียวยาได้อย่างเยี่ยมยอด และเป็นสัตว์เลี้ยงที่ซื่อสัตย์

บาซิลิสก์

ในบรรดาสัตว์ร้ายและสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวทั้งหลายที่ท่องเที่ยวอยู่ในดินแดนเรา ไม่มีสัตว์ตัวไหนที่หายากและเป็นอันตรายมากไปกว่า บาซิลิสก์ หรือที่รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่า ราชาแห่งงู งูตัวนี้เกิดมาจากไข่ของแม่ไก่ที่ฟักอยู่ใต้ตัวคางคก อาจโตจนมีขนาดใหญ่ยักษ์ได้และมีชีวิตยืนยาวอยู่ได้หลายร้อยปี วิธีการฆ่าเหยื่อของสัตว์ร้ายนี้แปลกประหลาดน่าพิศวงมาก เพราะนอกจากเขี้ยวที่มีพิษร้ายถึงตายแล้ว บาซิลิสก์ยังมีดวงตาที่มีอานุภาพสังหารได้ ผู้ที่มองสบตามันจะตายในทันที แมงมุมจะหนีเมื่อบาซิลิสก์มา เพราะบาซิลิสก์คือศัตรูตัวฉกาจของเหล่าแมงมุม ส่วนบาซิลิสก์จะหนีจากเสียงขันของไก่โต้ง ที่มีผลทำให้มันถึงตายได้ทันทีบาซิลิสก์ถือกำเนิดจากไข่ไก่ที่ถูกฟูมฟักไว้ใต้ท้องคางคก ผู้ที่ให้กำเนิดมันคนแรกคือ เฮอร์โปผู้ชั่วร้าย พ่อมดชาวกรีก ผู้มีความสามารถในการพูดคุยกับงู ด้วยภาษาพาร์เซล

หมีปั๊กดูดเลือด
หมีบั๊กดูดเลือด เป็นหมีที่เชื่อกันว่าเป็นก็อบลินชั่วร้ายที่แปลงร่างเป็นหมี นอกจากดูดเลือดสัตว์ต่างๆแล้ว บางทีก็จับเด็กชนๆไปกินด้วย


ที่มา http://www.muggle-v.com/forums/index.php/topic/4854-%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B9%8C-jobberknoll/

http://www.muggle-v.com/forums/index.php/topic/3882-%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%9F%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B9%8C/

http://writer.dek-d.com/haru_tatsu/story/viewlongc.php?id=351820&chapter=37

http://www.muggle-v.com/forums/index.php/topic/3816-%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%81%E0%B9%8C/

http://board.postjung.com/558247.html


http://www.muggle-v.com/forums/index.php/topic/3817-%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B9%8A%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%94/
https://www.google.co.th/search?hl=th&q=%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B9%8A%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%94&psj=1&biw=1366&bih=643&bav=on.2,or.r_gc.r_pw.r_cp.r_qf.&um=1&ie=UTF-8&tbm=isch&source=og&sa=N&tab=wi&ei=V-UgUbOmKcLtrQfBmoCoCQ#imgrc=GY31foEkJO1IOM%3A%3BTMPr2Xnmowp89M%3Bhttp%253A%252F%252Fimg5.uploadhouse.com%252Ffileuploads%252F13324%252F1332486557df1b3c0f90439241412d18551d98d3.jpg%3Bhttp%253A%252F%252Fboard.palungjit.com%252Ff178%252Fwarroom-%2525E0%2525B8%2525AD%2525E0%2525B8%2525B2%2525E0%2525B8%2525AA%2525E0%2525B8%2525B2%2525E0%2525B8%2525AA%2525E0%2525B8%2525A1%2525E0%2525B8%2525B1%2525E0%2525B8%252584%2525E0%2525B8%2525A3%2525E0%2525B9%252580%2525E0%2525B8%252595%2525E0%2525B8%2525A3%2525E0%2525B8%2525B5%2525E0%2525B8%2525A2%2525E0%2525B8%2525A1%2525E0%2525B8%252581%2525E0%2525B8%2525B2%2525E0%2525B8%2525A3%2525E0%2525B9%252580%2525E0%2525B8%25259D%2525E0%2525B9%252589%2525E0%2525B8%2525B2%2525E0%2525B8%2525A3%2525E0%2525B8%2525B0%2525E0%2525B8%2525A7%2525E0%2525B8%2525B1%2525E0%2525B8%252587%2525E0%2525B8%25259B%2525E0%2525B8%2525A3%2525E0%2525B8%2525B0%2525E0%2525B8%2525AA%2525E0%2525B8%2525B2%2525E0%2525B8%252599%2525E0%2525B8%252587%2525E0%2525B8%2525B2%2525E0%2525B8%252599%2525E0%2525B9%252580%2525E0%2525B8%252595%2525E0%2525B8%2525A3%2525E0%2525B8%2525B5%2525E0%2525B8%2525A2%2525E0%2525B8%2525A1%2525E0%2525B8%25259E%2525E0%2525B8%2525A3%2525E0%2525B9%252589%2525E0%2525B8%2525AD%2525E0%2525B8%2525A1%2525E0%2525B9%252580%2525E0%2525B8%25259E%2525E0%2525B8%2525B7%2525E0%2525B9%252588%2525E0%2525B8%2525AD%2525E0%2525B8%2525A3%2525E0%2525B8%2525AD%2525E0%2525B8%252587%2525E0%2525B8%2525A3%2525E0%2525B8%2525B1%2525E0%2525B8%25259A%2525E0%2525B8%2525AA%2525E0%2525B8%252596%2525E0%2525B8%2525B2%2525E0%2525B8%252599%2525E0%2525B8%252581%2525E0%2525B8%2525B2%2525E0%2525B8%2525A3%2525E0%2525B8%252593%2525E0%2525B9%25258C%2525E0%2525B8%25259B%2525E0%2525B8%2525B5-2013-a-288866-313.html%3B550%3B350


Take care!


วิธีดูแลเล็บมือ เล็บเท้า

วิธีดูแลเล็บมือ เล็บเท้า


เล็บมือฉีก หรือเล็บมือไม่แข็งแรง สาเหตุเกิดมาจาก ขาดสารอาหารบางประเภท จำพวกวิตามิน
วิธีดูแลเล็บมือ เล็บเท้า
  • ต้องหมั่นรับประทาน ผัก ผลไม้มาก ๆ
  • ควรงดทาเล็บสักพัก รวมทั้งน้ำยาเคลือบเล็บ ทุกประเภทเพื่อให้เล็บได้พักหายใจ
  • ลองแช่เล็บมือลงในน้ำมันมะกอกอุ่น ๆ
  • เวลาที่ซักผ้าหรือล้างจานก็ควรจะใส่ถุงมือ เพื่อป้องกัน สารตกค้างทั้งหลาย มาทำลายเล็บ
  • ควรตัดเล็บมือเป็นประจำ สัปดาห์ละครั้ง ส่วนเล็บเท้า 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง ไม่ควรตัดเล็บจนชิดบริเวณผิวหนังส่วนปลายนิ้วเกินไป
  • นวดนิ้วมือและเท้าด้วยครีมบำรุงหรือน้ำมันบำรุงผิว ประมาณ 3-5 นาที เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณมือและเท้า
  • ถ้าหากใช้ตะไบเล็บที่ทำจากเหล็ก ควรตะไบเล็บไปในทิศทางเดียว ไม่ควรถูกลับไปกลับมา เพราะจะทำให้เล็บเป็นเสี้ยนคมหรือฉีก แต่ถ้าใช้ตะไบเล็บที่ทำจากเซรามิคสามารถตะไบสวนทางกัน
  • เมื่อเกิดเล็บขบไม่ควรนำของแหลมคม ไปแงะบริเวณที่เกิดอาการ หมั่นรักษาความสะอาด อาจใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ เช็ดรอบๆ และอาจใช้สำลีสะอาดชิ้นเล็กๆ ไปดันไว้ระหว่างเล็บกับผิวหนัง เพื่อไม่ให้เล็บนั้นทิ่มเข้าไปในเนื้อจนเกิดแผล แต่ถ้าหากเกิดการบวมและมีหนองมาก ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการเจาะระบายหนองออก
  • ดูแลเล็บไม่ให้แห้งเกินไป เพราะจะทำให้เล็บเปราะและแตกง่าย ก่อนนอนจึงควรแช่มือลงในน้ำอุ่นสัก 10-15 นาที ซับน้ำให้แห้งหมาด ๆ แล้วทาครีมให้ความชุ่มชื้นที่มือและเล็บ

ที่มา http://sakid.com/2011/08/19/30333/

eatting


สุขภาพจะดีได้ ถ้าเราเลือกกิน เลือกแต่สิ่งดีๆให้ร่างกาย
  1. กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยกินอาหารให้หลากหลาย และกินให้สัมพันธ์กับน้ำหนักตัว ดังนั้นอย่าลืมชั่งน้ำหนักตัวอย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อจะได้ทราบว่าเราควรจะกินอาหารให้มากขึ้นหรือว่าน้อยลง
  2. กินข้าวเป็นอาหารหลัก สลับกับอาหารประเภทแป้ง คือควรกินข้าวอย่างสม่ำเสมอ และควรกินข้าวซ้อมมือที่มีวิตามิน แร่ธาตุมากกว่า และควรกินสลับกับอาหารประเภทแป้ง เช่น ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน เป็นบางมื้อ เพราะอาหารประเภทแป้งมีใยอาหารน้อยกว่าข้าว
  3. ควรกินพืชผักและผลไม้เป็นประจำ เพราะในพืชผักผลไม้นั้นมีสารอาหารที่สำคัญหลายชนิด เช่น วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร และยังมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ช่วยไม่ให้อนุมูลอิสระทำลายเนื้อเยื่อและผนังเซลล์ ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ไม่แก่เกินวัย
  4. กินปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ และถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจำ เพราะเป็นอาหารที่มีโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หากรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะไม่มากหรือน้อยเกินไป
  5. ดื่มนมให้เหมาะสมตามวัย นมเป็นแหล่งอาหารของโปรตีน แคลเซียม วิตามินบี 2 และแร่ธาตุต่างๆ เหมาะที่จะเป็นอาหารสำหรับคนทุกวัย แต่ควรดื่มให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะคือ เด็กควรดื่มวันละ 1-2 แก้ว ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุควรดื่มวันละ 1 แก้ว
  6. กินอาหารที่มีไขมันแต่พอควร ควบคุมปริมาณให้พอเหมาะกับความต้องการของร่างกาย
  7. หลีกเลี่ยงการกินอาหารรสหวานจัดและเค็มจัด เพราะอาหารประเภทนี้เป็นสาเหตุของการเกิดโรคอ้วนและโรคความดันโลหิตสูง
  8. กินอาหารที่สะอาดปราศจากการปนเปื้อนที่อาจเป็นเชื้อโรค พยาธิ และสิ่งแปลกปลอมต่างๆ และหากรับประทานอาหารที่เป็นอาหารสำเร็จรูป ควรอ่านฉลากให้ครบถ้วน ทั้งวันผลิตและวันหมดอายุ และควรล้างมือก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง
  9. งดหรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะหากดื่มมากเกินไปจะมีผลทำให้ระบบสมองและประสาททำงานช้าลง ทำให้ขาดสติอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ และยังก่อให้เกิดโรคตับแข็ง และการขาดสารอาหารที่สำคัญหลายชนิดได้ด้วย

ที่มา http://sakid.com/2012/06/20/31649/

Are you sleeping?


ผลจากการอดนอน อดนอนมากๆมีแต่ผลเสีย
  1. นอนไม่พอทำให้อายุสั้น : มีงานวิจัยที่เก็บข้อมูลการนอนและดูข้อมูลไปเรื่อยๆว่าคนๆนั้นมีชีวิตต่อไปอย่างไร พบว่าการนอนที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 7ชั่วโมง โดยมีแนวโน้มว่า ถ้านอนมากกว่า 9ชั่วโมงหรือน้อยกว่า5ชั่วโมง อาจจะมีความเกี่ยวข้องกับอายุที่สั้นลง ซึ่งก็น่าคิดครับ เพราะคนที่นอนมากกว่าปกติส่วนหนึ่งมักเป็นคนที่การนอนไม่มีคุณภาพหลับไม่สนิท ซึ่งตอนตื่นก็มักจะไม่แจ่มใสหรือง่วง ส่วนคนที่นอนน้อย ก็มีแนวโน้มที่จะเกิดอุบัติเหตุหรือใช้ยาช่วยนอนหลับได้มาก ตัวอย่างที่เห็นชัดๆก็ยกตัวอย่างแพทย์ไทยครับ มีงานวิจัยที่ออกมาเมื่อ3-4ปีก่อน พบว่า แพทย์ไทยมีอายุขัยที่สั้นกว่าคนปกติธรรมดาทั่วไปทั้งที่การสูบบุหรี่กินเหล้าน้อยกว่าคือมีอายุขัยเฉลี่ยที่ 55 ปี คาดกันว่าอายุที่สั้นลง เป็นเพราะเวลาที่อดนอนร่างกายจะสร้างฮอร์โมนที่มากระตุ้นการทำงานของระบบหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคความดันสูงและโรคหัวใจมากขึ้น
  2. การนอนไม่พอเสี่ยงพอๆกับกินเหล้า ชั่วโมงสุดท้ายในรั้วโรงพยาบาลก่อนที่จะเรียนจบ อาจารย์ได้ให้โอวาทกับผมและเพื่อนๆเกี่ยวกับการใช้ชีวิตและการทำงาน นอกเหนือไปจากเรื่องวิชาการและจรรยาบรรณ อาจารย์ได้เน้นให้ระวังเรื่องการขับรถ เพราะทุกๆปีจะมีแพทย์จบใหม่ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรเสมอๆ การนอนไม่พอมากๆในคราวเดียว อาจจะเกิดอาการวูบหรือที่เรียกกันว่าหลับในได้ ซึ่งอาการแบบนี้ผู้ที่ขับขี่ทุกคนพอจะป้องกันได้และไม่เป็นปัญหา … เพราะถ้าง่วงก็แค่จอดรถแล้วก็งีบสักหน่อย แต่อันตรายจะเกิดขึ้นกับคนที่อดนอนอย่างเรื้อรังครับ โดยมีงานวิจัยที่ออกมาระบุว่า การอดนอนหรือการทำงานที่ติดต่อกันโดยไม่พักเป็นเวลานานเกินไปจะทำให้การตัดสินใจแย่ลง พอๆกับการดื่มสุรา
  3. นอนไม่พอ ทำให้อารมณ์เสียได้ง่ายขึ้น จริงๆคงจะสังเกตเห็นกันอยู่แล้วว่านอนไม่พอก็เกิดอารมณ์เสียได้ ใครมาทำอะไรกวนใจเล็กน้อยก็อาจจะทะเลาะกันได้ง่ายๆ … ซึ่งในส่วนนี้จะเด่นชัดขึ้นหากการนอนไม่พอนั้นเป็นต่อเนื่องเรื้อรัง
  4. นอนไม่พอทำให้ตัวเตี้ย เบาหวาน ฯลฯ ระบบการทำงานและเผาผลาญในร่างกายมนุษย์ส่วนใหญ่ถูกควบคุมโดยต่อมใต้สมอง ส่วนการอดนอนก็เป็นภาวะที่ร่างกายถือว่าไม่ใช่ภาวะปกติหากแต่เป็นภาวะคับขันแบบหนึ่ง … หากเราอดนอน ร่างกายก็จะปรับฮอร์โมนให้อยู่ในสภาวะคับขันและลดการผลิตฮอร์โมน”ปกติ”ลง ผลที่ตามมาคือ ความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวานมากขึ้น เพราะระบบการเผาผลาญน้ำตาลผิดปกติไป ฟื้นตัวจากการเจ็บป่วยช้ากว่าคนปกติ- เสี่ยงที่จะตัวไม่สูง เพราะฮอร์โมนที่ช่วยเพิ่มความสูงซึ่งผลิตออกมาเวลากลางคืนก็จะถูกหยุดการผลิตไป ดังนั้นในเด็กที่อดนอนบ่อยๆ จะพบว่าตัวเตี้ยครับ และที่น่าเสียดายคือพอโตขึ้นแล้วอยากจะสูงก็ทำอะไรไม่ได้แล้วเนื่องจากกระดูกหยุดโตเสียแล้ว
  5. นอนไม่พอ ทำให้การตัดสินใจแย่ลง ถ้าลองสังเกตการชุมนุมประท้วงแล้วเกิดเรื่องขึ้น มักจะเกิดเรื่องรุนแรงขึ้นหลังจากประท้วงติดต่อกันเป็นเวลานานหรือเกิดในช่วงที่ยุติการชุมนุม … ซึ่งนอกจากจะเกิดจากความเมื่อยล้าทางร่างกายแล้ว ยังพบว่าการอดนอนจะทำให้การนึกคิดตัดสินใจของเราแย่ลงไปเมื่อเทียบกับเมื่อไม่ได้อดนอน ทั้งนี้การตัดสินใจจะแย่ลงเพียงใดก็ขึ้นกับสภาพจิตใจพื้นฐานของแต่ละบุคคล
ที่มา http://sakid.com/2012/06/14/31605/

10 อันดับถนนที่อันตรายที่สุด

10..North Yungas Road, ประเทศโบลิเวีย


ตำแหน่งที่ตั้ง: ระหว่างเมืองLa Paz และ Coroico
ความอันตราย: สุดยอดเส้นทางอันตรายจนมีชื่อเรียกขานว่า“ถนนแห่งความตาย” ถนนสุดแคบเส้นนี้วิ่งไปตามภูเขา 40 ลูก และบางจุดแคบเพียง 10 ฟุต รถยนต์แทบสวนกันไม่ได้ ด้านล่างเป็นป่าที่อยู่ลึกลงไป 1,000 ฟุตที่กลืนกินชีวิตนักขับมาแล้วหลายราย

9..Guoliang Tunnel Road,.ประเทศจีน
ตำแหน่งที่ตั้ง: ภูเขาTaihang ในประเทศจีน
ความอันตราย:ถนนที่มีชื่อแปลว่า “ไม่อดทนกับความผิดพลาด” ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1972 โดยชาวบ้านที่อาศัยในเขตภูเขา Taihang แสนไกลปืนเที่ยง ได้ช่วยกันขุดอุโมงค์ผ่านภูเขาเป็นระยะ 3/4 ไมล์เพื่อเป็นทางออกมาสู่โลกภายนอก ปัจจุบันเส้นทางนี้กว้าง 12 ฟุต หรือประมาณ 3 เมตรครึ่ง ทางโค้งในอุโมงค์กว่า 30 แห่งจะมีช่องเปิดให้เห็นวิวหน้าผาและหุบเหวลึกสุดอันตรายด้านล่างให้นักขับหัวใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มเล่น
8. Halsema.Highway, ประเทศฟิลิปปินส์
ตำแหน่งที่ตั้ง: ภูเขาบนเกาะLuzon
ความอันตราย: ความน่าสะพรึงกลัวของนักขับบนถนนเส้นนี้ ดินถล่มสุดโหด หินก้อนใหญ่ ๆ และซากหินที่ตกลงมาจากข้างบนเขาพร้อมจะคร่าชีวิตนักขับดวงซวยทุกคน แถมด้วยหมอกหนาที่ปกคลุมถนนเส้นนี้ทั้งปี ทำให้ทัศนวิสัยย่ำแย่สุดขีด เส้นทางนี้วิ่งวกวนผ่านเขาCordillera Central ขนาดมหึมาในเขตเกาะLuzon และยังมีอีกหลายพื้นที่ของเส้นทางที่ยังไม่มีการปูพื้นถนน
.
7. Karakoram.Highway,.ระหว่างประเทศปากีสถานและจีน
ตำแหน่งที่ตั้ง: เขตภูเขาKarakoram ในปากีสถาน
ความอันตราย: หนึ่งในถนนที่สูงที่สุดบนโลก วิ่งลัดเลี้ยวเคี้ยวคดไปตามภูเขาสูง16,000 ฟุตจากปากีสถานไปถึงจีน นี่คือเส้นทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวเพื่อขับรถไปชมวิวภูเขาK2 ภูเขาที่สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก เส้นทางจากจุดที่อยู่ที่สูงที่สุดจากถนนสายนี้ จะทำให้นักขับรถทรมานจากสภาพอากาศเบาบางเป็นระยะทางกว่า 800 ไมล์ ซึ่งแคบลงตามแม่น้ำและข้ามพื้นที่สุดแห้งแล้ง ก่อนจะปีนขึ้นไปตามทางที่คดเคี้ยวไม่มีที่สิ้นสุดของ Karakoram

6. Kolyma.Highway, ระหว่างประเทศรัสเซียและไซบีเรีย
ตำแหน่งที่ตั้ง: รัสเซียตะวันออกไกลและไซบีเรีย
ความอันตราย: เส้นทางยาว 1,200 ไมล์ซึ่งมีชื่อเล่นว่า ”เส้นทางสายโครงกระดูก” ถูกสร้างในยุคของท่านผู้นำสตาลิน ซึ่งชื่อนี้มีที่มาจากผู้ที่ถูกกักกันในค่ายแรงงานและผู้ที่เสียชีวิตระหว่างการก่อสร้างที่ถูกฝังไว้ข้างใต้หรือใกล้ ๆ พื้นถนน ถนนเส้นนี้ตัดผ่านบริเวณที่หนาวที่สุดในโลก ในหน้าหนาวจะเป็นการขับรถบนน้ำแข็งบนแม่น้ำที่แข็งตัวแทนการใช้เรือ ซึ่งเป็นเส้นทางการขับที่อันตรายสุดขีด เนื่องจากไม่สามารถทราบได้ว่าจุดไหนที่น้ำแข็งจะแตกหักบ้าง

5. Canning.Stock Route,.ประเทศออสเตรเลีย




ตำแหน่งที่ตั้ง:ทะเลทรายบริเวณออสเตรเลียตะวันออก
ความอันตราย: เส้นทางยาวกว่า 1,100 ไมล์ ผ่านทะเลทรายอันกว้างใหญ่ มีการขุดบ่อน้ำมากกว่าเกือบร้อยบ่อตลอดเส้นทาง ปัจจุบันรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อที่เดินทางไปด้วยกันสามารถขับผ่านความอ้างว้างนี้ได้ด้วยการช่วยเติมเชื้อเพลิง ทะเลทรายกว้างใหญ่ที่ดูไม่มีจุดสิ้นสุดและแสงแดดที่แผดเผาในการเดินทางข้ามผ่าน ทำให้เส้นทางนี้หฤโหดถึงขีดสุด

4..Graciosa Trail, ประเทศบราซิล

ตำแหน่งที่ตั้ง: ภูเขาเหนือเมือง Morretes
ความอันตราย: ถนนเส้นนี้เป็นทางเก่าแก่ที่ตัดผ่านป่าฝนและถูกปกคลุมหนาทึบไปด้วยมอส ด้วยสภาพเส้นทางที่ทำจากหินกรวดตลอดเส้นทาง ให้พื้นถนนลื่นและอันตรายมาก โดยเฉพาะบริเวณทางเลี้ยว นอกจากนี้ยังมีต้นไฮเดนเยียขึ้นตามทางทำให้ทางเขียวชอุ่มด้วยดอกไม้สีฟ้า ดูสดชื่นหลอกล่อให้นักขับหลงชมธรรมชาติจนลืมไปว่าถนนเส้นนี้อันตรายถึงชีวิต

3..Trans-Sahara Highway, ทวีปแอฟริกา


ตำแหน่งที่ตั้ง: จากแอลจีเรียถึงไนจีเรีย
ความอันตราย: เส้นทางลาดยางท่ามกลางทะเลทรายเป็นระยะทางยาวกว่า 2,800 ไมล์ วิ่งข้ามผ่าน 3 ประเทศ ได้แก่ แอลจีเรีย ไนเจอร์ และไนจีเรีย เป็นเส้นทางผ่านทะเลทรายซาฮาร่า ทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดบนโลก เชื้อเพลิงและน้ำไม่สามารถหาได้มากนักตลอดเส้นทางสุดโหด และพายุทรายที่บางปีก็พัดทรายกองมหึมาและถมลงบนถนน ทำให้การจราจรเป็นอัมพาตหลายวันติดต่อกัน

2..The.Stilwell Road, ระหว่างประเทศอินเดียและพม่า


ตำแหน่งที่ตั้ง: ทางในป่าอินเดียไปถึงพม่า
ความอันตราย: ถูกสร้างขึ้นระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองโดยการแลกมาด้วยชีวิตนับพัน Stilwell Road (The Ledo Road) วิ่งป่ายภูเขา คดเคี้ยวไปในป่า และผ่านแม่น้ำกว่า 100 สาย ที่ไหลผ่านถนนความยาว 1,079 ไมล์ ปัจจุบันถนนเส้นนี้ถูกป่าปกคลุมรกชัฎ มีการใช้น้อยและพื้นที่ส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถเข้าถึงได้

1..Wilderness Road.to Selva.Blue Lodge,.ประเทศโบลิเวีย


ตำแหน่งที่ตั้ง: ระหว่าง Santa Ana และ the Selva Blue wilderness lodge
ความอันตราย: เส้นทาง 100 ไมล์บนป่าเขาอันวกวน เป็นทางกรวดกว้าง 20 ฟุต ที่แคบลงเพราะหญ้าที่ขึ้นปกคลุมสองข้าง และสะพานไม้เหนือแม่น้ำสายย่อยจากอเมซอน คาราวานมอเตอร์ไซค์ได้เลือกเส้นทางที่มักถูกน้ำท่วมนี้ไปยังลุ่มน้ำอเมซอนทางเหนือของโบลิเวียในปี 2002 ด้วยความโหดระดับตำนานของเส้นทางนี้ ทำให้โบลิเวียได้ตำแหน่งประเทศที่มีถนนสุดอันตรายที่สุดในโลกไปครอบครองอย่างไม่น่าภูมิใจนัก
 ที่มา
http://travel.mthai.com/world-travel/5486.html